การแบ่งกลุ่มตลาดคืออะไร?

เลือกหัวข้อที่คุณสนใจ

การแบ่งกลุ่มตลาด (Market Segmentation) คือ กระบวนการในการจำแนกกลุ่มผู้ซื้อที่มีแนวโน้มความสนใจในการซื้อสินค้าหรือบริการที่คล้ายกันให้อยู่ในกลุ่มหรือ “เซ็กเมนต์” เดียวกัน โดยใช้ปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประชากรศาสตร์ ภูมิศาสตร์ พฤติกรรม หรือปัจจัยเชิงจิตวิทยา การแบ่งกลุ่มตลาดช่วยให้ธุรกิจเข้าใจกลุ่มเป้าหมายได้ลึกซึ้งและพัฒนาแผนการตลาดที่สามารถตอบสนองความต้องการเฉพาะกลุ่มได้อย่างเหมาะสม


ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการแบ่งกลุ่มตลาด

  1. ระบุกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ตรงจุด
    การแบ่งกลุ่มตลาดช่วยให้บริษัทสามารถวางแผนและสร้างสินค้าที่ดึงดูดใจกลุ่มลูกค้าที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ
  2. วิธีการแบ่งกลุ่มที่หลากหลาย
    บริษัทสามารถเลือกใช้วิธีการแบ่งกลุ่มที่เหมาะสม เช่น การแบ่งตามภูมิศาสตร์ ประชากรศาสตร์ หรือพฤติกรรม
  3. ลดความเสี่ยงในการทำการตลาด
    การแบ่งกลุ่มทำให้บริษัทสามารถเลือกสินค้าที่มีโอกาสทำกำไรสูงสุด และวางแผนการตลาดที่มีประสิทธิภาพ
  4. ขยายฐานลูกค้า
    การแบ่งกลุ่มตลาดช่วยให้บริษัทสามารถขยายกลุ่มลูกค้า และค้นพบโอกาสใหม่ ๆ ที่ไม่เคยพิจารณามาก่อน

เกณฑ์การระบุกลุ่มตลาด

บริษัทส่วนใหญ่ใช้เกณฑ์สามข้อในการระบุกลุ่มตลาด ได้แก่:

  • ความเหมือนกันภายในกลุ่ม (Homogeneity): ลูกค้าในกลุ่มเดียวกันควรมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน
  • ความแตกต่างจากกลุ่มอื่น (Distinction): กลุ่มลูกค้าควรมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากกลุ่มอื่น ๆ
  • การตอบสนองที่คล้ายกันต่อการตลาด (Reaction): ลูกค้าในกลุ่มควรมีปฏิกิริยาต่อการตลาดที่คล้ายกัน

ตัวอย่าง: บริษัทรองเท้ากีฬาอาจแบ่งกลุ่มลูกค้าเป็นนักบาสเกตบอลและนักวิ่ง เนื่องจากพวกเขามีความต้องการและปฏิกิริยาต่อโฆษณาที่แตกต่างกัน ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถสร้างกลยุทธ์การตลาดที่ตอบโจทย์แต่ละกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ประเภทของการแบ่งกลุ่มตลาด

1. การแบ่งตามประชากรศาสตร์ (Demographic Segmentation)

การแบ่งกลุ่มลูกค้าตามลักษณะของประชากร เช่น อายุ รายได้ เพศ เชื้อชาติ การศึกษา หรืออาชีพ เช่น การขายเกมออนไลน์อาจเจาะกลุ่มผู้เล่นที่มีรายได้สูงเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

2. การแบ่งตามองค์กร (Firmographic Segmentation)

การโฟกัสที่ลักษณะขององค์กร เช่น จำนวนพนักงาน จำนวนลูกค้า หรือรายได้ประจำปี เช่น การให้บริการซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมกับองค์กรขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่

3. การแบ่งตามภูมิศาสตร์ (Geographic Segmentation)

การแบ่งตามที่ตั้งทางกายภาพ เช่น บริษัทเสื้อผ้าอาจออกแบบสินค้าให้เหมาะกับภูมิภาคหรือสภาพอากาศที่แตกต่างกัน เช่น เสื้อกันหนาวสำหรับตลาดในประเทศที่มีอากาศหนาว หรือเสื้อผ้าระบายอากาศดีสำหรับเขตร้อน

4. การแบ่งตามพฤติกรรม (Behavioral Segmentation)

การแบ่งกลุ่มตามพฤติกรรมการซื้อและการใช้งานของลูกค้า เช่น การเสนอโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าประจำ หรือการโปรโมทสินค้าให้กลุ่มที่มีแนวโน้มการซื้อต่อเนื่อง

5. การแบ่งตามจิตวิทยา (Psychographic Segmentation)

การแบ่งตามลักษณะทางจิตวิทยา เช่น ไลฟ์สไตล์ บุคลิกภาพ และค่านิยม เช่น การเสนอเสื้อผ้ากีฬาให้กลุ่มลูกค้าที่ชอบเล่นกีฬา


วิธีการเลือกกลุ่มตลาดเป้าหมาย

  1. กำหนดเป้าหมาย
    วางแผนเพื่อทำความเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ของการแบ่งกลุ่มตลาดและระบุลักษณะที่ต้องการเข้าถึงในกลุ่มเป้าหมาย
  2. ระบุกลุ่มลูกค้า
    วิเคราะห์กลุ่มลูกค้าที่มีอยู่ในปัจจุบันและคู่แข่ง เพื่อหาโอกาสและความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม
  3. ประเมินกลุ่มเป้าหมาย
    วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้แน่ใจว่ามีข้อมูลเพียงพอและตรงตามความต้องการในการกำหนดกลยุทธ์การตลาด
  4. พัฒนากลยุทธ์
    วางแผนและทดสอบสมมติฐานในกลุ่มเป้าหมายก่อนนำไปใช้จริง
  5. เปิดตัวและติดตามผล
    ติดตามผลลัพธ์หลังเปิดตัวและรวบรวมข้อเสนอแนะจากผู้มีส่วนร่วมสำคัญเพื่อนำมาปรับปรุงกลยุทธ์

ประโยชน์ของการแบ่งกลุ่มตลาด

  • ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
    การแบ่งกลุ่มตลาดช่วยให้การสื่อสารและกลยุทธ์การตลาดตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ลดการสูญเสียทรัพยากรในการทำการตลาด
  • สร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่ง
    การตลาดที่ตรงกลุ่มช่วยให้บริษัทสามารถกำหนดภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมายได้
  • เพิ่มความภักดีต่อแบรนด์
    การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มลูกค้าช่วยให้เกิดความภักดีต่อแบรนด์และเพิ่มโอกาสในการซื้อซ้ำ
  • สร้างความแตกต่างในตลาด
    ช่วยให้บริษัทสามารถส่งข้อความทางการตลาดที่ชัดเจนและตรงกับความต้องการของลูกค้าในกลุ่มเป้าหมาย
  • การโฆษณาดิจิทัลที่ตรงจุด
    การแบ่งกลุ่มตลาดทำให้การโฆษณาดิจิทัลสามารถเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ข้อจำกัดของการแบ่งกลุ่มตลาด

  1. ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูง
    การแบ่งกลุ่มตลาดต้องใช้การวิจัยและการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า ซึ่งอาจเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงในช่วงแรก
  2. ความซับซ้อนในสายผลิตภัณฑ์
    เมื่อแบ่งกลุ่มแล้ว บริษัทอาจต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์เฉพาะสำหรับแต่ละกลุ่ม ทำให้การจัดการผลิตภัณฑ์ซับซ้อนขึ้น
  3. เสี่ยงต่อการสันนิษฐานผิดพลาด
    หากการแบ่งกลุ่มตามสมมติฐานไม่แม่นยำอาจทำให้บริษัทพลาดโอกาสสำคัญและไม่เข้าใจความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า
  4. พึ่งพาข้อมูลที่เชื่อถือได้
    ข้อมูลที่ใช้ในการแบ่งกลุ่มต้องเชื่อถือได้ เพราะข้อมูลที่ไม่แม่นยำจะทำให้การวางแผนกลยุทธ์ผิดพลาด

ตัวอย่างการแบ่งกลุ่มตลาด

บริษัทรถยนต์ เช่น Ford อาจแบ่งกลุ่มตลาดตามรายได้เฉลี่ยและตำแหน่งที่ตั้ง เช่น ลูกค้าในเมืองใหญ่อาจสนใจรถขนาดเล็กเพื่อการขับขี่ในเมือง ขณะที่ลูกค้าในชนบทอาจต้องการรถที่มีประสิทธิภาพการใช้น้ำมันสูง การเข้าใจลักษณะของลูกค้าในแต่ละพื้นที่จะช่วยให้บริษัทสามารถออกแบบผลิตภัณฑ์และแคมเปญการตลาดที่ตรงใจลูกค้าได้มากขึ้น


สรุป

การแบ่งกลุ่มตลาดเป็นกลยุทธ์ที่มีประโยชน์สูง ช่วยให้บริษัทสามารถระบุและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า การแบ่งกลุ่มตลาดยังช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาด

Share the Post:

Related Posts